พลตรี
พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าจุมภฏพงษ์บริพัตร กรมหมื่นนครสวรรค์ศักดิพินิต
พระองค์ทรงเป็นพระสวามีของหม่อมราชวงศ์ พันธุ์ทิพย์ บริพัตร
พระองค์ ทรงเป็นแรงบัลดาลใจให้มีการก่อตั้งมูลนิธิจุมภฏ
พันธุ์ทิพย์ขึ้น เนื่องจากระหว่างที่พระองค์ทรงมีชีวิตอยู่ได้บำเพ็ญ
สาธารณประโยชน์ไว้มากมาย
พระองค์หรือเสด็จในกรมฯ
ทรงเป็นพระโอรสองค์แรกในจอมพลเรือ จอมพล สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ
เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิต (ต้นราชสกุลบริพัตร)
กับหม่อมเจ้าประสงค์สม บริพัตร (ไชยันต์) ประสูติที่วังบางขุนพรหม
เมื่อวันจันทร์ที่ 5 ธันวาคม 2447 เมื่อเยาว์วัยพระองค์ไม่สู้จะแข็งแรงนัก
ทรง ศึกษาที่โรงเรียนมัธยมวัดเทพศิรินทร์ โรงเรียนแฮโร
และมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ ทรงได้รับปริญญามหาบัณฑิตทางเศรษฐศาสตร์
รัฐศาสตร์ ปรัชญา และเนติบัณฑิตของอังกฤษ ระหว่างที่พระองค์ท่านเสด็จกลับมาประเทศไทยชั่วคราวคุณท่านได้เฝ้าพระองค์ท่านในงานถวายพระเพลิงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
รัชกาล ที่ 6 หลังจากนั้น 3 ปี ทั้งสองท่านก็ได้ทรงประกอบพิธีหมั้นกัน
และพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
จัดพิธีเสกสมรสพระราชทานกับหม่อม ราชวงศ์พันธุ์ทิพย์ เทวกุล
เมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2473
พระองค์ทรงรับราชการในกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ
ในตำแหน่งเลขานุการเสนาบดีกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ เป็นเลขานุการกระทรวง
เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2474 และออกจากราชการเมื่อวันที่
1 กรกฎาคม 2475 พระองค์เป็นผู้ที่สนพระทัยเกี่ยวกับการศึกษา
การแพทย์ โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และพระพุทธศาสนา นอกจากทรง
เป็นอุปนายกผู้อำนวยการสภากาชาดไทย ทรงทำงานด้วยกำลังกายและสติปัญญาแล้วพระองค์ยังประทานเงินช่วยเหลือในการซื้อเครื่องมือเครื่องใช้สำหรับโรงพยาบาล
ตั้งทุนสร้างตึก บริพัตร ร่วมกับพระมารดาและพระญาติขึ้นเป็นที่ทำการของสำนักงานกลางสภากาชาดไทย
ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเปิดตึกนี้ เมื่อวันที่
29 มิถุนายน 2497 สร้างบ่อน้ำบาดาลสำหรับใช้ในตึกพยาบาล
ช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาลและช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ประชาชนอยู่เสมอ
พระองค์ประชวรด้วยพระโรคพระหทัยวาย
สิ้นพระชมน์อย่างกะทันหัน เมื่อวันที่ 15 กันยายน พ.ศ.2502
ณ วังสวนผักกาด ขณะที่มีพระชนมายุเพียง 55 พรรษา และพระราชทานเพลิงพระศพ
ณ เมรุวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม
พ.ศ. 2502 ด้วยเหตุที่หม่อมราชวงศ์พันธุ์ทิพย์ บริพัตร
ผู้เป็นชายา ระลึกถึง คุณงามความดีของพระองค์ท่านที่บำเพ็ญสาธารณประโยชน์ตลอดพระชนม์ชีพ
คุณท่านจึงได้ก่อตั้งมูลนิธิจุมภฏ พันธุ์ทิพย์ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ใกล้เคียงกับพระราช
ภารกิจที่พระองค์ท่านดำเนินการในขณะที่ทรงมีชีวิตอยู่
เพื่อเป็นการบำเพ็ญสารธารณประโยชน์ตามรอยพระสวามีและเพื่อเป็นอนุสรณ์ถวายพระองค์ท่านสืบไป
|
|